Tumgik
simplybenz · 6 years
Text
อืมมมมมม
0 notes
simplybenz · 6 years
Text
บทสวดบทนั้น
สมัยก่อนเวลาที่บ้านทำบุญแล้วนิมนต์หลวงตาชอบมาฉันที่บ้าน หลวงตาจะสวดกลอนหนึ่งบท ที่จำได้แค่ประโยคที่ว่า ผลของฉัน จำได้ว่าตอนไปบวชอยู่กับหลวงตา หลวงตาก็จะสวดบทนี้เวลามีคนมาทำบุญที่วัดฟัง เคยพยายามหามานานว่ากลอนบทนี้เต็มๆ มันคืออะไรแต่ก็หาไม่เจอ
วันนี้นึกขึ้นได้เลยลองค้นกูเกิ้ลดูอีกที แต่คราวนี้เจอแฮะ กลอนบทนั้นว่าไว้แบบนี้ครับ
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล .....บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ .....ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย .....มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ .....ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เถิด ฯ
ปล. คำว่าฉันไม่ต้องมี ท์ มาจากคำว่า ฉันทะ แปลว่าความพอใจจริงๆ จะใช้ว่าแสดงฉันทะ(ในอาหาร)เพื่อเตือนให้พระมีสติรู้ว่ไม่ควรแสดงตัณหา(ในอาหาร) จนต่อมาคำว่าฉันทะถูกกร่อนคำลงจนเหลือแค่ฉันอย่างเดียวและใช้เป็นคำในเชิงคำกริยาจึงต้องมีคำว่าอาหารมารับเป็นกรรมให้กับกริยาฉัน
0 notes
simplybenz · 6 years
Link
0 notes
simplybenz · 6 years
Text
ที่ว่าโชคร้าย จริงๆ อาจจะกำลังโชคดี
เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมาไม่รู้จะบอกว่าโชคร้ายหรือโชคดีกันแน่ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง
คือปกติจะขับรถไปส่งเมียที่ศรีราชา ทุกวันอาทิตย์เย็นๆ แล้วตอนเช้าๆ ก็นั่งรถทัวร์กลับมากรุงเทพเพื่อทำงาน
โดยการใช้ชีวิตตามปกติทั่วไปในวันทำงานคือเลิกงาน 6 โมงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปขึ้นรถเมล์ แล้วไปแวะกินข้าวที่ห้างหลัง���อนโด /จบหนึ่งวัน
แต่เมื่อวานมันไม่เป็นงั้น
จริงๆ เมื่อวานก็คล้่ายวันทั่วๆ ไปนี่แหละ ขับรถไปส่งเมียที่ศรีราชานั่งรถทัวร์กลับมาทำงานที่กรุงเทพ แต่ที่ไม่เหมือนคือเลิกงานแล้วไปเดินหาซื้อเม้าส์ที่ห้างแถวที่ทำงานเสร็จแล้ว ก็ไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินกลับบ้านแล้วไปต่อรถตู้ที่เสาวรีย์ ระหว่างที่เดินอยู่ในห้างแถวบ้านก็คิดว่าเออวันนี้กลับไปกินอะไรที่ห้องดีกว่าไม่ค่อยหิว ก่อนกลับก็แวะซื้อพวงมาลัยไหว้พระอย่างใจเย็นโดยที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง เดินกลับมาที่คอนโด *ติ๊ด*บัตร กดลิฟท์ขึ้นคอนโดอย่างสบายใจ พร้อมคิดว่าถึงบ้านแล้วโว้ยเหนื่อยชิบหาย ระหว่างที่ยืนอยู่หน้าห้องเอามือล้วงเข้าไป หยิบกุญแจ… หยิบกุญแจ… หยิบกุญแจ… หยิบกุญแจ… กุญแจ… กุญแจ… กุญแจจจจจจจ๊ เชี่ย…. กุญแจห้องหายไปไหนวะ ชิบหายลืมไว้ที่ศรีราชาแน่ๆ และเวลาตอนนั้นคือสองทุ่มนิดๆ
จริงๆ แล้วนี่มันไม่ใช่การลืมกุญแจครั้งแรก แต่เป็นครั้งแรกที่รู้ตัวว่าลืมกุญแจตอนยืนอยู่หน้าประตูห้องตัว คือตามปกติจะรู้ตัวก่อนว่าลืม แล้วก็รีบออกจากบริษัทแล้วก็นั่งรถทัวร์กลับไปศรีราชากินข้าวเย็นหนุงหนิงกับเมียแล้วก็ค่อยกลับมากรุงเทพตอนเช้า
… เวลาตอนนั้นสองทุ่มนิดๆ คิดในใจว่าเอาไงดีวะ จะนอนบ้านเพื่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยลางานกลับไปเอากุญแจ หรือจะเรียกช่างทำกุญแจมาปิดดี หรือกลับศรีราชาคืนนี้แม่งเลยดี
ข้อแรกนอนบ้านเพื่อน… นึกในใจกูมีเพื่อนด้วยเหรอ โอเคตัดไป (จริงๆ มีนะแต่ไม่อยากรบกวน) ข้อสองช่างกุญแจ… กุญแจ 2 รู ลูกบิดหนึ่งรู เดรดล็อคหนึ่งรู อย่างๆ น้อยๆ ก็ต้องพันนึงแหง๋ ข้อสามกลับไปศรีราชา… อืม ค่าแท็กซี่บวกค่ารถทัวร์ รวมกันไม่น่าถึงสี่ร้อยบาท แต่ตอนนั้นประมาณสองทุ่มจะครึ่งรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายไปศรีราชาคือสามทุ่มถ้ารีบไปก็น่าจะเฉียดๆ แบบวัดดวง ก็โทรบอกเมียแต่ตอนนั้ยังตัดสินใจไม่ได้ชัดๆ ว่าจะเอาไงแค่คำนวณทางเลือกไว้คร่าวๆ คุยไปคุยมาเมียบอกว่าเดี๋ยวขับรถจากศรีราชาเอามาให้เลยบอกว่าเดี๋ยวก่อนดีกว่าขอลองไปดูรถทัวร์ก่อน ตอนนั้นคือกำลังกดเรียกแท็กซี่แล้วเรียบร้อย กดเรียกจาก grab แต่แท็กซี่ดูขับชิลล์มากแบบระยะจากจุดที่ลุงแกอยู่กับจุดที่เราอยู่มันน่าจะแค่กิโลนิดถนนโล่งๆ ทำไมนานวะ ปรากฎ grab แม่งจับตำแหน่งเราผิดไปจับอยู่ริมคลอง พยายามโทรไปบอกลุงแท็กซี่ก็โทรไม่ติด เลยหันมาส่งข้อความผ่านในระบบก็ส่งไม่ไปอีก ตอนคุยนั้นคืออยู่ในแท็กซี่ พี่แท็กซี่ก็แสนดี ตอนแรกเค้าคงไม่รู้ว่าเรารีบพอได้ยินเราคุยกับเมียเค้าก็รีบเหยียบเร็วขึ้นอีก แถมซอกแซกเข้าทางลัดให้อีกพอมาถึงเอกมัยตอนนั้นเวลาแบบว่าสองทุ่มห้าแปด นึกในใจว่าเออรถพัทยาน่าจะยังมี ปรากฎลงรถแท็กซี่ปุ๊บก้มหน้าก้มตาวิ่งไปที่ขายตั๋วเงยหน้ามาเจอพี่ขายตั๋วรถศรีราชายิ้มมาแต่ไกลแล้วก็ผยักหน้าให้ ตอนซื้อตั๋วแก่บอกว่าเนี้ยทั้งคันตอนนี้เพิ่งมีคนเดียวมีน้องเนี้ยเป็นคนที่สอง สรุปว่ามาถึงศรีราชาเกือบเที่ยงคืน
ตอนแรกก็คิดว่าทำไมวันนี้แม่งซวยแบบนี้วะ แต่พอลองกลับมาคิดดูดีๆ แล้วก็รู้สึกว่าจริงๆ ก็โชคดีอยู่นะ โชคดีที่ไม่แวะกินข้าว โชคดีที่ได้พี่คนขับแท๊กซี่คนนี้ โชคดีที่รถในกรุงเทพมันไม่ติดแบบพินาศเหมือนทุกวัน แถมโชคดีที่ได้อยู่กับเมียเพิ่มอีกวัน
แปลว่าจริงๆ แล้วในความโชคร้ายมันยังมีโชคดีซ้อนทับอยู่ๆ ที่ว่าเราจะมองเห็นหรือเปล่าแค่นั้นแหละ :)
0 notes
simplybenz · 7 years
Text
I'm just a psycho freak who can control myself (sometimes)
me
0 notes
simplybenz · 7 years
Text
ลืมไปเลยว่าเคยมี tumblr
เออลืมไปเลย นี่ถ้าไม่ได้มีโครงการของ true young blogger ก็คงไม่ได้มาคุ้ยดูว่าเขียนอะไรไว้มั่ง
ดูจากรูปจากอะไรที่บันทึกไว้เหมือนจะหยุดเขียนไปเมื่อตอนมือถือ asus จอแตกแล้วไปเอา iphone ของแม่มาใช้ (เอา iphone ตัวใหญ่ไปแลกกับแม่มา) จนตอนนี้ iphone มันแบตเสื่อมจนคบไม่ได้แล้วก็ย้ายมา huawei นี่แหละ
เอาเป็นว่ายังไงก็ #พี่กลับมาแล้ว #บั่ยก่อนสำหรับตอนนี้
2 notes · View notes
simplybenz · 9 years
Quote
เราเกิดมาคนเดียว เราตายไปคนเดียว
1 note · View note
simplybenz · 9 years
Quote
life asked death, "Why do people love me but hate you?" death reponded, "Because you are a beautiful lie and I am a painful truth"
Unknow
0 notes
simplybenz · 9 years
Photo
Tumblr media
0 notes
simplybenz · 9 years
Photo
Tumblr media
0 notes
simplybenz · 9 years
Text
ปฎิปทา = แนวทางของผู้เรียนรู้ธรรม
1. มักน้อย / ใช้สิ่งของหรือกินอาหารแต่พอดีไม่มากเกินไป และถึงแม้จะหามาได้เยอะแยะก็ใช้แต่พอดีและควรนำสิ่งที่ได้มาเยอะแยะนั้นแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง
2. สันโดษ / ทำเต็มที่แต่ไม่ซีเรียส จะทำอะไรก็ทำให้เต็มที่แต่อย่าไปกังวลกับผลที่จะออกมา
3. ไม่คลุกคลีกับหมู่ / ไม่สุงสิงกับเพื่อน�� จนมากเกินไป
4. เพียร / ขยัน ขยันรุ้สึกตัวขยันมีสติทำให้ได้ตั้งแต่ตื่นจนหลับซึ่งถ้าจะทำแบบนั้นได้ต้องมีอินทรีย์กล้าอินทรีย์กล้าก็คือมีร่างกายและพลังใจที่มากพอ แล้วสิ่งที่จะทำให้เรามีแรงและพลังใจมากพอก็คือต้องฝึกฝนขยันปฎิบัติบ่อยๆ
0 notes
simplybenz · 9 years
Text
มันเป็นแบบนี้เอง...
หลังจากฝึกตามดูจิตที่ไปคิดมาได้พักใหญ่ๆ มากก็ได้รู้ว่าการดื่มเหล้าการดูหนังดู��ะครฟังเพลงผลของจิตที่ไปทำแบบนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาคล้ายๆกัน คือจิตเข้าไปติดกับอารมณ์แบบลึกมากออกมาเป็นจิตแบบปกติได้ยาก (สำหรับผมนะคนอื่น��าจจะง่าย) แต่การกินเหล้าต่างออกไปนิดหน่อยตรงที่จิตจะฟื้นตัวได้ยากกว่าเพราะสภาพร่างกายก็ไม่เป็นปกติไปด้วย
0 notes
simplybenz · 9 years
Link
finding perfect french fry
0 notes
simplybenz · 9 years
Text
ข้าวโพดทอดสูตรของยาย
เมื่อวานข้าวโพดที่พ่อปลูกไว้มันออกฟักให้เก็บได้พอดี เลยได้กินข้าวโพดทอดสูตรของยายโดยบังเอิญ ถึงที่บอกว่าสูตรของยายแต่ยายไม่ได้เป็นคนทำเพราะว่าตอนนี้ยายเป็นอัลไซเมอร์ไปแล้วคนที่ทำคือแม่ที่ลอกยายมาได้ทุกระเบียดนิ้ว
ส่วนประกอบทั้งหมดจะมี ข้าวโพด, แป้งข้าวโพด, แป้งทอดกรอบ, รากผักชี, เมล็ดพริกไทยแห้ง,กระเทียม, ซีอิ้วขาว ขั้นแรกคือต้องข้าวโพดออกจากฝักก่อนแล้วพักเอาไว้  แล้วโขลกรรากผักชีก,พริกไทย,กระเทียมผสมรวมกัน แล้วแยกไว้
ขั้นตอนี้สำคัญมากถือว่าเป็นเทคนิคอย่างนึงคือต้องค่อยๆ แบ่งข้าวโพด กับ แบ่งรากผักชีพริกไทยกระเทียมที่โขลกไว้ มาโขลกผสมกันในครก ดังนั้นต้องแบ่งให้ขลุกกันให้พอดีระหว่างข้าวโพดกับเครื่องที่โขลกไว้แล้ว ถามแม่ว่าใช้เครื่องปั่นไม่ได้เหรอ แม่บอกว่าได้แต่ข้าวโพดมนจะไม่ช้ำแล้วมันจะทำให้แข็งๆไม่อร่อย
หลังจากโขลกทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วก็เอามาผสมกับแป้งทอดกรอบกับแป้งข้าวโพด สัดส่วนคือแป้งทอดกรอบต้องมากกว่าแป้งข้าวโพดเสร็จแล้วปรุงซีอิ้วในขั้นตอนนี้ผสมกับให้เหนียวๆ พอปั้น
ตั้งเตารอให้น้ำมันร้อนไม่ต้องใส่น้ำมันมากถ้าจะทอดเป็นแผ่นๆ แต่ถ้าจะทอดเป็นก้อนหนาๆ ต้องใช้ทำมันแยะเหมือน deep fried หลังจากนั้นใช้ช้อนๆ ค่อยๆ ตะล่อมข้าวโพดเป็นก้อนๆ เอาไปใส่ในกระทะแล้วค่อยๆ ตะหลิวแต่งๆ ให้มันแผ่ออก ระวั่งอยากให้แตก ทอดจนเริ่มจับตัวเป็นชิ้นเดียวแล้วค่อยกลับทอดให้สุกทั้งสองด้านก็เสร็จ
แม่บอกอีกว่าถ้าจะทำทีละแยะๆ เก็บไว้ก็ได้แต่ยังไม่ต้องผสมแป้งข้าวโพดที่ตำขลุกผสมกับเครื่องที่โขลกไว้เก็บไว้ในตู้เย็นได้
บันทึกเก็บไว้เผื่อวันหลังจะลองทำกินเอง
0 notes
simplybenz · 9 years
Photo
Tumblr media
0 notes
simplybenz · 9 years
Photo
Tumblr media
0 notes
simplybenz · 9 years
Photo
Tumblr media
0 notes