footballperfect

[footballperfect]

สร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบอย่างฟุตบอล

บอลในลีกใหญ่ ๆอย่างพรีเมียร์ลีก ได้รับความนิยมสูงกว่าบรรดาลีกอื่นๆ เห็นได้จาก ผู้ที่เข้ามาใช้บริการแทงบอลออนไลน์กับเว็บ sbobet เลือกที่จะแทงบอลอังกฤษกันหลากหลาย ด้วยเพราะ มีหลายคู่เล่นง่ายได้หลายแบบทั้งบอลเดี่ยว บอลเต็ง บอลสเต็ปเป็นต้น ซึ่งลายคนแทงบอลเอาไว้หลายคู่ กระจายความเสี่ยง แต่ถึงอย่างไรก็ได้สนุกและลุ้นกับสิ่งที่ชอบอย่างฟุตบอลที่สามารถสร้างรายได้บ้าง

ความสนใจในฟุตบอลไม่ล่าจะบอลถ้วยใหญ่ๆหรือบอลลีกต่างๆ สื่อต่างให้ความสนใจ เสนอข่าวที่เกี่ยวกับการแข่งขัน ทำห้ฟุตบอลเป็นกีฬาระดับโลก ที่มีการแข่งขันระดับชาติอย่างฟุตบอลโลกที่เกิดขึ้นทุกๆ4ปียิ่งช่วงนั้นทีไร การแข่งขันกินระยะเวลาเป็นแรมเดือน กว่าจะหาทีมของแต่ละสาย เข้าสู่รอบชิงชัยและมาชิงชัยกันในรอบสุดท้ายคือชิงชนะเลิศ ความเป็นชาติแห้งจ้าวฟุตบอล

แต่การรอคอยของการแข่ขันฟุตบอลโลกก็ไม่ได้เป็นปัญหา สำหรับคอลูกหนัง ที่ชอบดูบอลเป็นประจำ เพราะแต่ละซีซั่น หรือฤดูกาลแข่งขันของฟุตบอลแต่ละประเทศ ต่างก็ได้รับความสนใจกันถ้วนหน้าอยู่แล้วบรรดานักพนันต่างที่จะเลือกแทงบอลออนไลน์กับเว็บ เอสบีโอเบท กันเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเทศกาลบอลโลก บอลถ้วยยุโรป หรือบอลลีกก็ตาม เนื่องจากเป็นเว็บแทงบอลอันดับต้นๆ ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจสูง

หลายคนสร้างรายได้จากการแทงบอลออนไนลน์ก็มี อาศัยดูบอลเยอะๆ ดูบอลหลายประเทศ ก็สมารถเก็บสถิติประสบการณ์เอาไว้เก็งบอลได้หลากหลาย ยิ่งช่วงการแข่งขันระหว่างทีมดังๆ ผู้คนให้ความสนใจกันเยอะและเกมอาจจะมีการพลิกผันกันได้ จึงควรที่จะเลือกแทงบอลกับรูปแบบที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพื่อป้องกันและทำให้การแทงบอลครั้งต่อๆไปไม่เสียบรรยากาศถ้า��ทงบอลไม่ชนะตามที่หวังเอาไว้

ชัยชนะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน! ถ้าเรามีตัวช่วย ที่ให้การแทงบอลแต่ละครั้ง สำเร็จไม่ว่าจะแทงบอลล่วงหน้าแทงบอลสด ต่างก็ต้องคาดหวังผล ว่าจะชนะ มีรายได้จากทีมที่เชียร์ไปแล้ว เพราะเมื่อลงทุนไปแล้ว ต่างก็หวังผลกันทั้งนั้น นั่นคือผู้ช่วยแทงบอลอย่าง sbobet mobile เป็นการแทงบอลบนมือถือ ที่จะไม่ทำให้ผู้ใช้งานเสียโอกาส แทงบอลไม่ทัน เพราะปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าใช้บริการแทงบอลบนมือถือ

#sbobet #แทงบอล #แทงบอลออนไลน์ #สมัครแทงบอล #ทีเด็ดบอล #พนันบอลออนไลน์

[footballperfect]

บัดไวเซอร์-โค้ก-เป๊ปซี่ถอนตัวจากโฆษณาซูเปอร์โบล์วปีนี้

แฟนอเมริกันฟุตบอล คงจะคุ้นเคยกับโฆษณาช่วงการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ หรือ ซูเปอร์โบล์วแต่การแข่งขัน ครั้งที่ 55 ในปีนี้จะไม่มีภาพของแบรนด์เครื่องดื่มรายใหญ่ ทั้ง บัดไวเซอร์ (Budweiser)โค้ก (Coke) และเป๊ปซี่ (Pepsi) โลดแล่นบนจอเงินในช่วงพักชมสิ่งที่น่าสนใจในปีนี้ จากที่แบรนด์ที่สามเป็นตำนานของการโฆษณาในเกมซูเปอร์โบล์วมายาวนาน และทุ่มงบมหาศาลเพื่อ 30 วินาทีอันมีมูลค่ามากมายนี้

สถานีโทรทัศน์ CBS ระบุว่า แบรนด์ใหญ่ที่ขอลาจากโฆษณาจอแก้วปีนี้ จะดึงงบประมาณมหาศาลที่เคยใช้ในการทุ่มโฆษณาในระยะ 30 วินาที ไปในกิจกรรมรณรงค์ และช่วยเหลือด้านอื่นแทน โดยบริษัท Anheuser-Buschเจ้าของเบียร์บัดไวเซอร์และบัดไลท์ ที่โฆษณาในซูเปอร์โบล์วมากว่า 37 ปี จะ��ำเงินที่จะใช้เพื่อการนี้ไปทุ่มให้กับการช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหารและผับบาร์ที่เดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19

และบริจาคเงินส่วนนี้เพื่อใช้ในการโฆษณารณรงค์การสร้างความตระหนักรู้ถึงการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้ผู้คนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่บริษัท Coca-Cola ที่ถอนตัวจากการโฆษณาราคาแพงช่วงซูเปอร์โบล์วปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี บอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ และว่าจะขอจิบโค้กเย็นๆ ดูเพื่อนร่วมวงการอยู่ข้างสนามแทน

เพราะทาง Coca-Cola เจอวิกฤตหนักจากที่สนามกีฬาและโรงภาพยนตร์ต้องปิดตัวช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัสและเพิ่งเลิกจ้างพนักงานไป 2,200 ตำแหน่งเมื่อเดือนก่อน ทำให้ต้องระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก จากที่เมื่อปีก่อนบริษัททุ่มโฆษณาในซูเปอร์โบล์วไปราว 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่าง PepsiCo. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแสดงช่วงพักครึ่ง หรือ Halftime show ถอนตัวจากการโฆษณา 30 วินาทีนี้ด้วยเช่นกัน แต่จะเน้นการโฆษณาแบรนด์อื่นนอกจากเป๊ปซี่ เช่น Mountain Dew และผลิตภัณฑ์ขนมกรุบกรอบเครือ Frito-Lay

เพราะบริษัทมองว่า Pepsi Halftime Show ที่ปีนี้มีศิลปินชาวแคนาดา The Weeknd มาแสดงกินพื้นที่โฆษณาไป 12 นาทีแล้ว ตามรายงานของ Associated Press ปีนี้โฆษณาซูเปอร์โบล์ว ในระยะ 30 วินาทีมีมูลค่าราว 5.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 165 ล้านบาท ในขณะที่ปีนี้ทั้งอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความปกติใหม่ช่วงโควิดที่ไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มต่างๆในเกมเหมือนแต่ก่อน

ทำให้แบรนด์ดังหลายเจ้าต้องถอนตัวจากการโฆษณาราคาแพงนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงค่ายรถสัญชาติเกาหลี Hyundaiและ Avocados From Mexico แต่กรณีของแบรนด์อาโวคาโดนี้ บอกว่า ที่ถอนตัวไปเพราะรายได้ดีอยู่แล้วจากที่ผู้คนทำกับข้าวอยู่บ้านมากขึ้นช่วงโควิด แบรนด์หน้าเก่าหลายรายยังอยู่ในโฆษณาซูเปอร์โบล์วปีนี้ อาทิ ช็อคโกแลต M&M's มันฝรั่งแผ่น Pringles และรถยนต์ Toyota

ในวิกฤตนี้กลับเป็นโอกาสให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ อาทิ แอพพลิเคชั่น Triller คู่แข่งของ TikTok และแพลตฟอร์มซื้อขายขายรถออนไลน์อย่าง Vroom ส่วนทางเว็บไซต์ MarketWatch ระบุว่า แบรนด์แฟรนไชส์อาหารสไตล์เม็กซิกันChipotle บริการส่งอาหาร DoorDash และผ้าอ้อม Huggies จะกระโจนสู่สังเวียนเดือดบนจอเงินปีนี้ด้วยศึกคนชนคน ซูเปอร์โบล์วครั้งที่ 55 จะถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ตามเวลาสหรัฐฯ หรือประมาณเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ตามเวลาประเทศไทย เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง Kansas City Chiefs และ Tampa Bay Buccaneersทีมล่าสุดของทอม เบรดี้ และจะแข่งขันที่ในสนาม Raymond James Stadium ในเมืองแทมป้า รัฐฟลอริดา

#ซูเปอร์โบล์ว #Coke #Pepsi #Budweiser

[footballperfect]

เบน เดวี่ส์ ว่าที่กองหลังคนใหม่หงส์แดง

     สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ยินดีควักเงินจำนวน 2 ล้านปอนด์หรือประมาณ 76 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าเสียหายให้กับ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในการซื้อตัว เบน เดวี่ส์ กองหลังฝีเท้าดีมาร่วมทีมในช่วงโค้งสุดท้ายตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้การคว้าตัว เดวี่ส์ มาร่วมทีม นอกจาก "หงส์แดง" จะเสียเงินแล้ว พวกเขายังต้องส่ง เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ปราการหลังดาวรุ่งชาวดัตช์ ไปเล่นแบบยืมตัวกับ เปรสตัน

โดยงานนี้การที่ ลิเวอร์พูล ได้ ดาวเตะวัย 25 ปี มาร่วมทีม น่าจะช่วยแก้ปัญหาเซนเตอร์แบ็กบาดเจ็บได้เป็นอย่างดีเบน เดวี่ส์ ถือเป็นนักเตะประสบการณ์สูงในวัยแค่ 25 ปีเท่านั้น โดยเขาเล่นเกมลีก���ห้กับต้นสังกัดมาแล้วถึง 135 แมตช์และยังลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017/2018 ซึ่งถือเป็นผู้เล่นที่เปรสตัน ไม่สามารถขายได้เลยดาวเตะเลือดผู้ดี มีสัญญาเหลืออยู่กับ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และเจ้าตัวก็ปฏิเสธโอกาสที่จะขยายสัญญา

เนื่องจากเขามองหาโอกาสที่จะได้เล่นให้กับทีมชั้นนำในลีกสูงสุด เดวี่ส์ เพิ่งจะเปิดฉากการเจรจากับ กลาสโกว์ เซลติกโดยในเวลานั้น นีล เลนน่อน ผู้จัดการทีม "ม้าลายเขียวขาว" มั่นใจว่าจะได้ลายเซ็นของนักเตะเพื่อจะดึงมาช่วยเกมรับของทีมก่อน��ึงเส้นตายปิดตลาดพ่อค้าแข้งฤดูหนาววันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ สุดท้ายดูเหมือนฝันของ เลนน่อน และสาวก กลาสโกว์ เซลติก คงกำลังจะมลายหายสิ้น

เพราะตอนนี้ ลิเวอร์พูล เดินเครื่องตัดหน้าคว้าตัว เดวี่ส์ ไปช่วยแก้ปัญหาวิกฤติเกมรับที่กำลังย่ำแย่ เนื่องจากขาดเซนเตอร์แบ็กคนสำคัญ เพราะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ปัญหาเซนเตอร์แบ็กบาดเจ็บคือเรื่องที่ ลิเวอร์พูล ปวดเศียรเวียนเกล้าที่สุดในฤดูกาลนี้ เพราะล่าสุด ฟาบินโญ่ กับ โจแอล มาติป มีชื่อเข้าอไปอยู่ในกลุ่มผู้เล่นเดี้ยงของทีม และนั่นคือเหตุผลที่คล็อปป์ ต้องหากำลังเสริมในเกมรับมาช่วยทีม

ด้วยเหตุนี้หวยก็เลยไปออกที่ เบน เดวี่ส์ ซึ่งมีประสบการณ์ และชุดใหญ่ เปรสตัน ต่อเนื่องที่สำคัญนักเตะยังเล่นแบ็กซ้ายได้ด้วยด้วยความสูง 6 ฟุต 1 นิ้วหรือประมาณ 185 เซนติเมตร ก็ต้องบอกเลยว่า เดวี่ส์ ไม่ใช่เซนเตอร์แบ็กที่มีรูปร่างใหญ่โต หากเทียบกับบรรดากองหลังในลีกเมืองผู้ดีที่มีสภาพร่างที่ทั้งใหญ่ทั้งหนา เหมาะกับการปะทะหนัก อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ถูกชดเชยด้วยศักยภาพอื่นๆ ในตัวของ เดวี่ส์ สิ่งแรกก็คือความสามารถในการลากบอลจากหลังขึ้นไปหน้า

เขามีองค์ประกอบของการเป็นเซนเตอร์แบ็กสมัยใหม่พร้อมทั้งมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และเล่นได้นิ่งเวลาที่ต้องลำเลียงบอลขึ้นมาจากแดนหลัง รวมทั้งการเปิดบอลยาว นอกจากนี้ เดวี่ส์ ยังมีการผ่านบอลฉลาดหลักแหลว ซึ่งสิ่งนี้สาวก "เดอะ ค็อป"มักจะได้เห็นเป็นประจำจากกองหลังของพวกเขาอย่างเช่น ฟาน ไดค์ และ มาติป เป็นต้น ในส่วนของร่างกายแม้จะไม่ได้ตัวใหญ่แต่เขาก็ใช้ร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถรับมือกับพวกกองหน้าร่างยักษ์ได้สบายๆ

#Ben Davies #ลิเวอร์พูล #football #premier league

[footballperfect]

ชี้วิถีหมูแข็งแรง อ้วนแต่ออกกำลังสม่ำเสมอยังไม่ดีพอ

หลายคนอาจเคยเชื่อว่าการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอและการรักษาความฟิตของร่างกายจะช่วยทดแทนผลเสียต่อสุขภาพของหัวใจที่เกิดจากความอ้วนและการมีน้ำหนักตัวเกินพอดีได้แต่ผลการศึกษาชิ้นใหม่ของนักวิจัยด้านการแพทย์ในสเปนซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ในวารสารสุขภาพหัวใจ European Journal ofPreventive Cardiology โต้แย้งความเชื่อที่ว่านี้ โดยผลการศึกษาชิ้นใหม่จากนักวิจัยของมหาวิทยาลัย European University ที่กรุงมาดริดของสเปน

แสดงว่าเรื่องนี้อาจไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะผลเสียต่อสุขภาพจากการมีน้ำหนักตัวเกินพิกัดนั้นไม่อาจถูกลบล้างได้ด้วยการมีไลฟสไตล์ที่แอคทีฟหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างกระฉับกระเฉงเท่านั้นอาจารย์Alejandro Lucia ผู้สอนวิชาสรีระวิทยาการออกกำลังกายของมหาวิทยาลัยดังกล่าวซึ่งศึกษาเรื่องนี้ ชี้ว่า เราไม่สามารถจะมีสภาวะที่อ้วนแต่แอคทีฟแล้วมีสุขภาพหัวใจที่ดีไปพร้อมกันได้ นักวิจัยได้ข้อสรุปดังกล่าวจากการศึกษาผู้ใหญ่วัยทำงานในสเปนซึ่งมีอายุเฉลี่ย 42 ปีกว่า 520,000 คนและแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสามกลุ่มตามระดับ BMI หรือดัชนีมวลกาย

BMI นั้นมาจากน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง โดยค่า BMI เฉลี่ยระหว่าง18.5 ถึง 24.9 ถือว่าปกติ ค่า BMI ระหว่าง 25 ถึง 29.9 คือน้ำหนักตัวเกิน และค่า BMI ตั้งแต่ 30ขึ้นไปบ่งชี้ถึงการเป็นโรคอ้วน นักวิจัยได้พิจารณา��วามสัมพันธ์ระหว่างดัชนีมวลกายของกลุ่มตัวอย่างที่จัดว่าปกติน้ำหนักตัวเกิน และเป็นโรคอ้วนนี้กับลักษณะความกระฉับกระเฉงของไลฟสไตล์และการออกกำลังกาย

โดยโยงเข้ากับปัจจัยความเสี่ยงต่อสุขภาพสามอย่าง คือโรคเบาหวาน ระดับโคเลสเตอรอล กับความดันโลหิตซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้หัวใจวายและเกิดอาการสมองขาดโลหิตหล่อเลี้ยงได้นักวิจัยพบว่าการเคลื่อนไหวร่างกายไม่ว่าจะมากน้อยเพียงใดล้วนแต่ดีต่อสุขภาพทั้งสิ้นแต่ในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวเกินและเป็นโรคอ้วนนั้น การออกกำลังกายไม่ว่าจะมากเพียงใดก็ไม่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจแต่อย่างใดนักวิจัยยังพบข่าวร้ายด้วยว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นโรคอ้วนถึงแม้จะแอคทีฟก็ยังมีโอกาสความเสี่ยงมากกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวพอดี ๆ ถึงสองเท่าที่จะมีโคเลสเตอรอลสูง 

มีความเสี่ยงมากกว่าสี่เท่าที่จะเป็นเบาหวาน และเพิ่มโอกาสขึ้นห้าเท่าที่จะมีความดันโลหิตสูงเมื่อเทียบกับคนที่มีน้ำหนักตัวพอดีแม้จะไม่ค่อยออกกำลังกายก็ตามจากข้อมูลที่ได้นี้ นักวิจัยด้านการแพทย์ของสเปนจึงสรุปว่า การออกกำลังกายแต่เพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถทดแทนหรือลดผลเสียหรือความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการมีน้ำหนักตัวเกินพอดีได้ และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นทั้งในเพศหญิงและเพศชายคล้ายๆ กัน

#หมูแข็งแรง #BMI #ออกกำลังกาย #news

[footballperfect]

เชลซีฟอร์มแจ่ม จัดหนัก เบิร์นลีย์ 2-0

Chelsea 2-0 Burnley | Tuchel’s First Win as Azpilicueta & Alonso Score! | Highlights

     โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือป้ายแดง เชลซี พาทีมประเดิมชัยชนะนัดแรกได้สำเร็จหลังเปิดรังเอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-0จากประตูของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ ลูกยิงสุดสวยของ มาร์กอส อลอนโซ่ ทำให้ทีม "สิงห์บลูส์" ขยับขึ้นมารั้งที่ 7 ของตาราง ส่วนทัพ "เดอะ คลาเรตส์" สะดุดพ่ายนัดแรกในรอบ 3 เกมยังรั้งที่ 15 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกประจำวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 10 พบ เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 15 ของตารางโธมัส ทูเคิ่ล กุนซือคนใหม่ชาวเยอรมันของเชลซี ประเดิมงานด้วยการเสมอวูล์ฟแฮมป์ตัน 0-0  ในเกมล่าสุดนายใหญ่เชลซี โธมัส ทูเคิ่ลยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม หลังลูกทีมทำผลงานได้โดดเด่นเป็นสง่า

ในแมตช์เปิดบ้านไล่ต้อน เบิร์นลี่ย์ เกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยกย่องทุกคนเหมาะที่จะเป็นตัวจริงของทีม และมีความสำคัญกับทัพ "สิงห์บลูส์" โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของ เชลซี ออกดรงเปิดใจหลังนำ "สิงโตน้ำเงินคราม" โชว์ฟอร์มสุดยอดทุบ เบิร์นลี่ย์ 2-0 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าบ้านเปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง

แต่กว่าจะได้ประตูแรกต้องรอถึงนาทีที่ 41 จาก เซซ่า��์ อัซปิลิกวยต้า  ส่วนในครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" ยังคงเหนือกว่าและมาได้ประตูตอกฝาโลงในนาทีที่ 84 จากการยิงสุดสวยของ มาร์กอส อลอนโซ่ จบเกม เชลซี คว้า 3 แต้มได้สำเร็จ ขยับขึ้นมารั้งที่ 7 ของตารางลีกทูเคิ่ล เปิดใจหลังคว้าชัยชนะในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเกมแรก กล่าวว่า "มันเป็นการเล่นที่สมบูรณ์แบบ ทั้งเกมรุกและเกมรับ เราสามารถครองครองเกมได้ตลอดซึ่งมันสุดยอดมากๆ

ในขณะเดียวกันเราไม่เคยสูญเสียความอดทนในการครองบอล พยายามที่จะครองเกม สร้างโอกาสได้มากมายดันเกมขึ้นสูงเพื่อช่วยกันชิงบอลกลับมาเล่นให้เร็วที่สุดได้ดีมากๆ""มีหลายสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากมายในสนาม ผมมีความสุขมากๆ และเราสมควรที่จะได้ชัยชนะ ถ้าหากเรามี 11 ตัวจริงที่สามารถการันตีว่าเราจะเก็บชัยชนะ 20 เกมต่อเนื่องซึ่งเราจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น

เราต้องการทุกๆ คนในทีม"  "เรามีการเปลี่ยนแปลงในเกมรุก โดยใช้ผู้เล่นที่มีศักยภาพที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันทุกๆ คนยังทุ่มเทอย่างเต็มที่ในเกมนี้ สำหรับตอนนี้นักเตะทุกคนเหมาะสมที่จะได้ลงตัวจริง��ห้กับเราเพราะผมมีความสุขมากๆกับคุณภาพ, ความกระตือรือร้น และการเสียสละในช่วงฝึกซ้อม และเมื่อลงสนามของทุกคน" ทูเคิ่ล กล่าว

#Chelsea 2-0 Burnley #football #premier league #ผลบอล

[footballperfect]

โควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจอเมริกันดิ่งหนักสุดในรอบ 74 ปี

การลงทุนภาคธุรกิจที่ลดฮวบหนักจากวิกฤตการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผลักดันให้ชาวอเมริกันนับล้านต้องตกงานและเข้าสู่ภาวะยากจนข้นแค้นกระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของสหรัฐฯ ทั้งปี 2020 เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจอเมริกันหดตัว 3.5%เมื่อปีก่อน นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946

หลังจากโควิด-19 ระบาดในสหรัฐฯเมื่อต้นปี 2020 เศรษฐกิจอเมริกันเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ก่อนที่ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวที่ 0.4%จากงบประมาณช่วยเหลือผลกระทบจากโควิดที่พอกระตุ้นการใช้จ่ายในโค้งสุดท้ายปลายปีนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า เศรษฐกิจอเมริกาจะขยายตัวได้ช้าในไตรมาสแรกของปี 2021 นี้

และว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อาจช่วยโน้มน้าวให้สภาสหรัฐฯ พิจารณาแผนช่วยเหลือผลกระทบจากโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศรอบใหม่ได้ ระหว่างที่ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะคงดอกเบี้ยต่อไปจากทิศทางเศรษฐกิจอเมริกันที่ฟื้นตัวในระดับที่ช้า

ตลาดแรงงานยังอ่อนแอ หลังโควิดระบาด เศรษฐกิจอเมริกันยังพบการฟื้นตัวในรูปแบบ K-shapedrecovery แรงงานรายได้สูงจะฟื้นตัวจากวิกฤตนี้ได้ ขณะที่แรงงานรายได้น้อยกลับฟุบหนักและในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า ภาคบริการได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด รวมทั้งยังพบว่าผู้ที่มีรายได้น้อยสตรี และชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิดรุนแรงที่สุด

ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รองรับการทำงานจากบ้านและการเรียนออนไลน์ เติบโตในระดับ 11.9% เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่จีนา เรมอนโด ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ของสหรัฐฯ แสดงทัศนะที่แข็งกร้าวต่อจีน แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าบริษัทใดที่ยังคงอยู่ในบัญชีดำของทางการสหรัฐฯ ในยุคไบเดน

อดีตผู้ว่าการรัฐโร้ดไอส์แลนด์ จีนา เรมอนโด กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เป้าหมายหลักของเธอคือการช่วยเหลือภาคธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัสเป็นสำคัญ จากที่โรคระบาดใหญ่นี้สะท้อนภาพของความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจอเมริกัน และปธน.ไบเดนแสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเราจะสร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและเท่าเทียมกันมากขึ้น ซึ่งเธอสนับสนุนแนวคิดนี้

#united states #news #covid_19 #economy