Tumgik
#หิว
w-o-n-s-h-i-kawaii · 2 months
Photo
Tumblr media
5 notes · View notes
ssbbwlovers-food · 2 years
Photo
Tumblr media
(via GIPHY) She doesn’t stop eating.
10 notes · View notes
mhalabarber · 1 year
Text
Tumblr media
ตามนั้นเลยจ้า 🎉🎉
Mhala.Barber 🚘 Delivery 24 hour
🐻 Food panda ค้นหาชื่อร้าน Mhala Barber แล้วสั่งได้เลย 🐻
🥧 EatsHub ค้นหาชื่อร้าน Mhala.Barber แล้วสั่งได้เลย 🥧
0 notes
coolpee2499 · 2 years
Photo
Tumblr media
#หิว #photooftheday https://www.instagram.com/p/Cfuw-wSPiGK/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
rika2029 · 2 years
Photo
Tumblr media
🌅🐷🦀สวัสดีวันเสาร์ 💜💁🏽‍♀️ #หิว (at เล็กเลือดหมู เมืองทอง) https://www.instagram.com/p/CepiLv-vsEGCj1qdrfVqmoWwpFbWJhI3fkmnPA0/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
tarnza · 6 months
Text
Singapore 2023
ว่าง... เลยนึกอยากเล่าทิ้งๆไว้เฉยๆกับการไปเที่ยวต่างประกะเพื่อนครั้งแรกในชีวิต ก็ไม่ได้ว่าไปไกลอะไรหรอก สิงคโปร์เนี่ยยย
อยากลองเป็น writer เผื่อพอจะเขียนหนังสือแนวประสบการณ์ท่องเที่ยวได้บ้าง ซื้ออ่านเยอะละ อยากลองเขียนเองมั่ง ก็คงเอาไว้อ่านเอง55555
ว่าจะเกริ่นหน่อยว่าไปไงมาไง แต่ขี้เกียจอ่า เอาเป็นว่าสมาชิกมี 3 คนคือกุ อิทราย อิฟรอยด์ (3 คนที่ดั้นดนจะไปให้ได้เลยยยย ต่างประเทศเนี่ย) ตกลงหาตั๋วเลือกวันจองที่พักกันปุบปับ ตกลงว่าได้ไปช่วงกลางเดือนกันยา 2023 (กุเลือกเอง ตรงกับวันเกิดตัวเอง มีงานแข่ง F1 ด้วย ใครจะไปรู้ อาจจะเจอรักแท้ในวัยแรกแย้ม 25 ก็ได้) แต่ลืมคิดไปว่าพอเป็นสัปดาห์ที่นักท่องเที่ยวเยอะ เค้าก็อัพราคาทุกอย่างขึ้นเยอะมากกกก อืม แต่ช่างมันเถอะ
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน อิฟรอยด์บินมากทม.ก่อน มานอนห้องกุแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะออกไปพร้อมกัน ไม่ปูเตียงให้เพื่อนด้วยเพราะนอนคืนเดียวขี้เกียจซักพูดตรงนี้เลย55555 ก็นอนเบียดกะกุนี่แหละ
Day-1
เช้าวันเดินทางต้องตื่นแต่เช้าเพราะกลัวรถติดแล้วไปไม่ทัน อาบน้ำ get ready กันใกล้จะเสร็จอิทรายก็เรียกรถเลย พอรถมากุรับบทนางเตือนเพื่อนเลย อย่าลืมไรนะ ลืมไรก็ได้แต่ต้องไม่ลืมพาสปอร์ต! ไหนชูของตัวเองกันซิ ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง เคร! ครบ! ออกห้อง ล็อคประตู กดลิฟต์ อืม... แปลกๆ ขาดอะไรไป... กระเป๋า! กุลืมกระเป๋าลากทั้งใบ เหี้ยมากกกกก เตือนชาวบ้านแต่ตัวเองลืม อะพอครบจริงๆก็ออกเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่งเคยเห็นสุวรรณภูมิข้างนอกว่ามันใหญ่มาก ถนนเยอะงงๆ พวกกุก็งง คนขับก็งง ก็จอดมั่วๆ พวกกุก็เดินเข้ามั่วๆ เดินไปเดินมาหาเคาเตอร์ Check in มั่วๆ เวลาค่อนข้างพอดีไปหมดเลยต้องรีบเดิน สับๆๆๆ แต่ก็ไม่ลืมจะถ่าย content ถือพาสปอร์ตแนบตั๋ว พอขึ้นเครื่องไปก็นั่งเรียงติดกันเลยสามคน บินประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง
A few moments later...
สามชั่วโมงผ่านไปเราก็มาถึงสิงคโปร์ อย่างแรกเลยนะ หิวมาก ตามแพลนอิทรายแล้วเราต้องกิน Shake Shack เบอร์เกอร์เจ้าดัง ถามว่าที่ไทยก็มีแต่ก็ไม่ได้จะเคยพยายามไปกินอะไร - - แต่นั่นแหละ หิว เพื่อนเสนอมาก็กินไป ไม่แย่ ส่วนตัวชอบเบอร์เกอร์เนื้อเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน กินเสร็จแล้วก็ต้องออกไปจากที่นี่เพราะแพลนเที่ยวค่อนข้างแน่น ต้องออกจาก Jewel ไปตึก Changi แล้วนั่ง MRT ออกไปที่พักในเมือง แต่กว่าจะออกจากสนามบินได้ก็เดินวนกันอยู่อย่างนั้นนานพอจนจะเรียกว่าเสียเวลาได้อยู่ -0- พอถึง MRT ที่ใกล้ที่พักสุด(ซึ่งก็ไม่ได้ใกล้มาก) ก็เปิดแอพ Citymap เรียกได้ว่าเป็นแอพที่จริงใจในการเดินทางครั้งนี้ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีแอพนี้จะเป็นไง อืม มันขนาดนั้นเลยแหละ
การเดินทางในสิงคโปร์ ถ้าเอาแค่รถสาธารณะ หลักๆเลยจะมี MRT Bus และเดิน ซึ่งในทริปนี้หลักๆที่ใช้จะเป็น MRT และการเดิน เพราะไม่กล้าขึ้นบัส ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งๆที่บัสบ้านเค้ามันสบายและง่ายกว่าบ้านเราตั้งเยอะ แค่ขึ้นตามแอพแนะนำ ซึ่งแอพแม่นยำมาก อีกกี่นาทีมา ขึ้นตรงไหน ลงตรงไหน จ่ายก็แค่แตะบัตรขึ้นลง ก็งงว่าทำไมพวกกุไม่กล้าขึ้นวะ เออสรุปก็คือเดินจ่ะ! จาก MRT ไปที่พัก เดินไกลมากกกก ระหว่างทางมึงนึกภาพนะ ตอนนั้นกลางวัน แดดร้อนๆ คนแทบไม่มี ร้านค้าไม่เปิด จนกุงงว่ากุอยู่ถูกย่านท่องเที่ยวปะวะ ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวเลย คนแถวนี้ก็มีแต่คนอินเดีย อะก็เดินๆไปถึงที่พักปุ๊บ พนักงานขอพาสปอร์ตของทั้งสามเท่านั้นแหละ อิฟรอยด์... หาพาสปอร์ตไม่เจอ... นั่งค้นดูดีๆก็แล้ว หาในกระเป๋าเพื่อนก็แล้ว โอเค หายจริง... ความชิบหายแรกได้เกิดขึ้นแล้ว พนักงานก็แนะนำให้ไปสถานีตำรวจ เลยรีบเช็คอินขึ้นห้อง หาเส้นทางไปสถานีตำรวจจากแอพคู่ใจ อิทรายสรุปให้ว่าเราจะเดินกันไป(อีกแล้ว) ก่อนไปก็ขอเอนหลังนิด เติมหน้าหน่อย
เริ่มออกเดินทาง เดิน เดิน เดินไปเรื่อยจนเจอสถานีตำรวจ เดินขึ้นลิฟต์ไป เชื่อปะ จังหวะประตูลิฟต์เปิดแล้วจะเจอตำรวจนั่งอยู่ตรงหน้าเลย แล้วตำรวจก็คืองานพรีเมี่ยมเลย ทุกคนเห็นตรงกัน นึกภาพตามนะ ผิวขาว ผมเซ็ทเสยปัดข้างเกาหลีเลย หน้าตาขาวสะอาดสะอ้าน เหมือนในซีรี่ส์เกาหลีเลยหละ พวกกุก็รีบปรี่เข้าไปเลย แย่งกันตอบคำถามสุดๆ พูดเป็นไม่เป็นไม่รู้ รู้แต่อยากสปีกกะคุณตำหนวดสุดๆ สื่อสารกันงูๆปลาๆ ได้ความว่าต้องไปติดต่อสถานทูตไทย แต่สถานทูตปิดเสาร์อาทิตย์(ซึ่งคือวันนี้และพรุ่งนี้ไปไม่ได้ละ) ต้องไปวันจันทร์ ซึ่งตามแพลนวันจันทร์จะไป Sentosa กัน ส่วนวันอังคารก็วันบินกลับ ก็ต้องเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะแพลนยืดหยุ่นได��อยู่ เสร็จธุระก็กลับมา Follow แพลนเที่ยวต่อ ซึ่งเย็นละยังไม่ได้ไปซักอัน... อยากเข้าเมืองไปเจอผู้คนใจจะขาดแล้ว เมอร์ไลองไลอ้อนเอย มาริน่าบงมาริน่าเบย์ อะก่อนอื่นก็เดิน(ตามเคย)ไปขึ้น MRT ก่อน
ที่แรกตามแพลนก็คือจะไปโซน Marina Bay พอลง MRT ตกใจกับปริมาณคนในโซนนั้นมาก คือก่อนมาก็จินตนาการอยู่ว่าคนจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะสนามแข่ง F1 ก็อยู่ตรงนั้น แลนด์มาร์คเช็คอิน Merlion ก็อยู่ตรงนั้น แต่เจอจริงๆคือ อหหหห เยอะแบบหามุมถ่ายรูปเก๋ๆคนเดียวไม่ได้เลย หื้มมม! หลบไม่ได้ก็ถ่ายมันด้วยกันหมดเนี่ยแหละ! -/\- แล้วมึงจะต้องรับบทเป็นตากล้องให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆด้วย สลับกันถ่ายไปมา ซึ่งก็ถ่ายกันค่อนข้างนานมากมากกก จนคิดว่าน่าจะพอได้ซักรูปที่ใช้งานได้แล้วก็เดินหาร้านข้าวเย็นกันต่อ ตามแพลนแล้วอิฟรอยด์อยากได้ร้านที่วิวดี เอาให้ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวทั้งหมดของ Marina Bay (ตอนแรกมันบอกจะไป Rooftop ด้วยซ้ำ กุกับอิทรายเครียดละ ยังไงน้อ จะตกคนละเท่าไหร่ แต่โชคดีไปที่ร้านส่วนมากจองเต็มไปแล้ว คิดว่าเพราะงาน F1) ก็เลยได้เดินหาร้านแถบริมแม่น้ำ ซึ่งโอเคเลย รู้สึกว่าบรรยากาศดีมากๆ หาโต๊ะที่อิฟรอยด์พอจะทำคอนเท้นต์อย่างว่าได้ จบที่ร้าน OverEasy เปิดเพลงดี ชอบ เครื่องดื่มด็โอเค Singapore Sling ที่ว่าเป็นซิกเนเจอร์ก็ได้ลอง จำได้ว่าอร่อย แต่ตอนนี้ลืมละว่ารสชาติประมาณไหน เสร็จแล้วก็กลัวว่าจะไม่มี MRT รอบดึกกลับ บวกกับวันต่อไปแพลนแน่นมากๆ เลยกลับเลย ตอนเดินกลับโรงแรมสังเกตเห็น จำได้มั้ยที่บอกว่าแถวโรงแรมมันเงียบไม่มีคนอะ ปรากฎว่าตื่นละ คือมันเป็นย่านของกินตอนกลางคืนอะ คนก็เยอะทุกร้าน เออสบายใจละ(สบายใจไร? ไม่รู้) แล้วก็จบวันด้วยมาม่าคัพมื้อดึกที่โรงแรม ซึ่งมาม่าที่นี่บางยี่ห้อไม่มีส้อมให้ ต้องกินอย่างยากลำบาก ในส่วนของรสชาติไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกใจนัก พอกินได้ถ้าหิวมากๆ
Day-2
วันที่ 2 อะหรอ ขอนึกก่อน เป็นวันที่ค่อนข้าง chaos อยู่พอสมควร เริ่มที่แพลนว่าจะเริ่มกันตอน 8 โมง เพราะจะไปหลายที่ สรุปเช้านั้นตื่นลืมตากันตอน 10 โมง กว่าจะได้ออกอีก ทีนี้ทางสนามบินโทรมาแจ้งว่าเจอพาสปอร์ตอิฟรอยด์แล้ว ให้มารับที่สนามบินได้ มีคิวแทรกอีกหนึ่งละ ก็พากันออกเดินทางกลับไปที่สนามบินรับพาสปอร์ต เสร็จแล้วไปไหนต่อวะ เออก่อนออกก็ไปซื้อ llaollao ไอติมโยเกิร์ต อ่านว่า "เหยาเหยา" ไม่ใช่ "เหลาเหลา" ดังที่อิฟรอยด์กล่าวอ้าง... อร่อย ชอบมากมากกก นึกแล้วก็อยากกินอีก แต่ที่ไทยเห็นว่ามีที่เดียว ซึ่งอยู่ที่แพลตตินั่ม รู้สึกว่าจะไกลกุอยู่พอสมควร อดแดก... อืม กลับมา ออกจากสนามบินแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ไชน่าทาวน์ เพื่อไปหาอาหารเช้า+เที่ยงกิน ตั้งใจจะไปกิน SONG FA ร้านบักกุ๊ดเต๋เจ้าดัง(อิฟรอยด์บอกมา) อร่อยมั้ยหรอ ก็หน้าตาพรีเมี่ยม รสชาติพอได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้ว้าวมาก แต่เพื่อนชอบนะ กินเสร็จก็พากันไปโซนหลักๆของไชน่าทาวน์ ที่มีร้านขายของฝากเต็มไปหมด เสียเวลาที่นี่เยอะมากกกกกก จนแพลนเคลื่อนหมด55555 ยืนเลือกกันไม่จบไม่สิ้น เพื่อนได้ของให้ใครบ้างไม่รู้ แต่กุเลือกไม่ได้ ช็อคโกแล���ก็เฉยๆ พวงกุญแจก็เฉยๆ คิดไม่ออก ไม่ซื้อ ตัดจบ เลิก สบายใจละ(สุดท้ายได้ผ้าพันคอมา 2 ผืนจะให้ยายผืนนึงอีกผืนคิดก่อนจะให้แม่หรือเอาไว้ใช้เองดี) เสร็จแล้ว next stop คือ Coach Cafe ที่เพื่อนฟรอยด์อยากไป เดินกันอีกแล้ว พอไปถึงคาเฟ่แม่งยังไม่เปิดให้เข้าอีก คือมึงจะเปิดเย็นแค่ไหนวะ จำได้ว่าไปถึงนี่ก็เย็นละนะ เลยถ่ายรูปกันหน้าร้านแม่งเลย ถ่ายเสร็จก็เดินกลับ ไปไหนต่อนะ อ่อจำได้ละ เดินผ่านสวน Gardens by the Bay จะไป Art Science Museum พอไปถึง ปิดละ... มาช้าไป ก็เลยขึ้นไปชั้นที่ไม่มีตั๋วก็ชมได้ พอขึ้นไปก็ เอ่อ... ให้ดูไรอ่า...มะมีไรเลย ลงไปคืน ไปหาที่เปลี่ยนชุดเล็กน้อยเพราะแต่ละคนมีปัญหาปัญหาคอสตูมมาก55555 เปลี่ยนแล้วก็หาถ่ายรูปทำคอนเท้นต์แปปนึง แล้วก็จะหาอะไรกินก่อน แล้วจะไป Gardens by the Bay เวอร์ชั่นกลางคืน (แปลว่าต้องเดินกลับไปสินะ) ณ จุดนั้น ขาคืองอแงละ อิทรายถึงขั้นทรุดลงที่พื้น ถอดถุงเท้ามาเช็คว่าตีนยังอยู่ดีมั้ย และหิวมากมากกกก ก็เลยจบที่ Shake Shack ตอนนั้นคือขอแค่ได้นั่งพักขาคือพอใจมากแล้วจริง พอมีแรงแล้วเลยไปเก็บภาพ Gardens by the Bay ซักหน่อย สภาพทุกคนคือไม่ไหวแล้ว แต่!! จำได้ว่าก่อนเดินมาที่นี่มีสาวฝรั่งนางหนึ่งชีถามว่ารู้มั้ยว่าพลุ F1 จุดกี่โมง ตอนนั้นก็ไม่รู้ไร อยู่ดีๆก็นึกอยากรู้ ถามกูเกิลชีบอกว่าทันทีที่ผู้ชนะเข้าเส้นชัย พลุจะเริ่มทันที ก็คือช่วง 4 ทุ่ม แสดงว่าถ้าจะดูพลุก็ยังทัน แต่จุดที่จะชมพลุได้คือแถวริมอ่าวมาริน่า และจุดที่ดีที่สุดคือ Helix Bridge (ก็คือกุต้องเดินกลับไปอีก) บอกตรงว่าตอนนั้นกุคิดว่า Helix Bridge คือทางผ่านไป MRT ที่จะกลับโรงแรม เลยโอเครอดูพลุก่อนกลับก็ได้ ก็แค่นั่งรอ อะไรที่ไม่ต้องเดินตอนนี้รับได้หมด ก็เดินไปที่เดิมกันทีนี้ รอจน 4 ทุ่ม จู่ๆพลุดังขึ้นรัวๆ จิตวิญญาณ Content Creator อิฟรอยด์มันมาพากุวิ่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นสะพานฮีลิกซ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมาก ถุงของฝากร่วงเริ่งไปหมด เหมือนกุจะเหยียบของตัวเองด้วย รีบเกินอิเหี้ย5555 ถ่ายพลุกันรัวๆๆๆซึ่งโชว์พลุนานมาก ณ ตอนนั้นอิทรายคือรับหน้าที่นั่งเฝ้าของอยู่ด้านล่าง เพราะชีคงวิ่งไม่ทันบวกกับขาชีระบมมากมาก ดูพลุเสร็จได้เวลากลับละ พอเพื่อนบอกปะเดินกลับ MRT... เค... ทางไหน? ทางเดิม... ทางเดิมคือ... ทาง Gardens by the Bay ที่เราเดินผ่านมาไง ...ไม่จริง...ไม่จริงใช่มั้ย... (ไม่อยากจะเชื่อว่าต้องเดินกลับจริงๆ เลยถามคนแถวนั้น สรุปว่ามีทางอื่นไปอยู่ ในใจตอนนั้นคือต่อให้ทางใหม่ไกลกว่าทางการ์เด้น กุก็จะไปเพราะกุเบื่อการเดินไปมาในสวนนั้นแล้ว มันเหมือนเดินที่เดิมไปๆมาๆ มันทำให้รู้สึกปวดขามากขึ้น จริงๆนะะะ) ตอนนั้นใจกุอยู่บนเตียงที่โรงแรมแล้วเอาจริง จบเดย์สองที่แสนวุ่นวาย
Day-3
เอาจริงมะ นั่งพิมพ์อยู่ตอนนี้คือผ่านมาเดือนนึงได้ละนะ กะมาเล่าแค่ตอนมีฟิวลิ่ง (เท่ากับ ตอนลงเวรไนท์แล้วยังไม่อยากอาบน้ำ ทำไมกุทำตัวสกปรกแบบนี้! แต่ๆ จริงๆนะ อาบน้ำเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ฟิวลิ่งมากกว่าอะไรทั้งปวงจริงๆ)
อะ นึกแปป อ่ออ วันที่ 3 คือวันที่ไป Universal Studios นี่เอง ก็คือสวนสนุกมันเปิดสายๆ รู้สึกจะ 11 โมง เลยตื่นสายกันได้ ก่อนออกไปก็พากันกินอาหารแนวๆบักกุ๊ดเต๋หน้าปากซอยโรงแรม ก็พอกินได้ ไม่ได้ว้าว ไม่ได้แย่ ตอนแรกบอกรับแต่เงินสด ต้องขอร้องว่าพวกไอไม่มีเงินสดเลยนะ บัตรไม่ได้จริงๆเหลอ ถึงยอมเอาเครื่องรูดบัตรออกมา จบ. วันนี้นึกครึ้มอะไรไม่รู้ อยากจะลองขึ้นบัสกันดูบ้าง เพราะไม่มีแรงตีนจะเดินไป MRT แล้ว และได้ค้นพบว่ามันลดเวลาและลดแรงไปมากกกก ไปอยู่ไหนมาฟร้ะ ไม่ใช่บัสนะ พวกกุเนี่ย! ก็นั่งยาวๆไปลงห้างที่มันมีรถรางไฟฟ้า? ไป Sentosa ไปถึงก็ต่อแถวซื้อตั๋ว 3 ใบ ไปถึงจุดติ๊ดบัตร ควาย 3 ตัวได้หยิบบัตรเงินตัวเองมา ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ขึ้นรถ แล้วยืนมองหน้ากัน... อย่าบอกนะว่า... ควาย! แล้วจะไปต่อแถวซื้อบัตรกันทำไม ถ้าจะมาตัดบัตรอยู่ดี เสียดายเงินว่ะTT ก็นึกว่าตั๋วแม่งเอาไปเข้าสวนสนุก ที่ไหนได้เป็นตั๋วรถ ยังจะพยายามมองแง่บวกว่าเราอาจจะเอาไว้ใช้ขากลับได้ (ลึกๆรู้ ว่ามันไม่ด้ายยย!)
มาถึงสวนสนุกอย่างแรกเลยก็ต้องถ่ายรูปกับป้าย Universal Studios ที่มันเป็นลูกโลกใหญ่ๆหมุนไปเรื่อยๆอะ นั่นแหละ ก็ถ่ายกันอยู่นมนาน จบที่คู่รักเกาหลีชุดคู่ที่มาถ่ายให้เรา ถ่ายดีมากกกกก โคตรโปร มุม ความสมมาตร การบรีฟ คือเริ่ด ใส่ใจรายละเอียด มีความเดี๋ยวรอคำว่า Universal Studios หมุนมาก่อน รู้สึกผิดเลยพวกกุ ก่อนหน้านี้ถ่ายให้เค้าลืมมองว่ามันเห็นตอนป้ายหมุนมามั้ยว้า ถ่ายเสร็จเริ่มไปต่อแถวเครื่องเล่นเลย จะไม่รีวิวไรมากนะ เพราะค่อนข้างลืม ลำดับการเล่นก็จำไม่ค่อยได้ ที่เล่านี่ก็อาจจะผิดด้วย 5555 จำได้ว่าอันแรกอิทรายบอกต้องไปเลย Transformers ใส่แว่น 3D เข้าไปโอโหเหมือนจริงมากกก เหวี่ยงกุไปมา กุก็อินจัด แหกปากกันลั่น เล่นเสร็จถอดแว่นออกฟิวเหมือน กุนั่งเฉยๆยังไงให้เหนื่อย 5555 เอ๊ะหรือรถมันเคลื่อนที่เยอะจริงๆวะ เอ้อช่างมันเหอะ เสร็จแล้วไปต่อที่มัมมี่ อันนี้จำได้เพราะทางเดินเข้ายาวมากก กุวิ่งตามฝรั่งหน้าตาดี 2 อัตรา ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้ได้ไปรอบด้วยกัน สรุปไม่ได้ จะแม่นบ่มีวาสนาคัก! จบ มัมมี่จำได้แค่นี้แหละ เสร็จแล้วไปนั่งอิโต๊ะกลมๆหมุนๆเวียนหัวเล่นไม่ถึง 2 นาที แล้วก็ต่อด้วย(มั้ง)ไดโนเสาร์บินลอยขึ้นลอยลง ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนั้นอยากนั่ง เสร็จแล้วมานั่งเถียงกันอยู่นานเรื่องเล่นน้ำ ลืมแล้วว่า issue คืออะไร แต่สุดท้ายก็ไปต่อแถว แล้วก็ท้อ แล้วก็ออกแถวมา แล้วกุก็อยากเล่น Battlestar มากกกก รู้สึกมาสวนสนุกต้องเล่นอะไรที่มันหน้าตาแบบนี้มันถึงจะสุดดด แต่เพื่อนไม่อิน เลยไปคนเดียว เพื่อนไปหาไรกินรอ ต่อแถวโคตรนานอิดอก กุยืนแล้วยืนอีก แล้วแบบเหงาปากสาด คนอื่นเค้ามากับเพื่อนกับแฟนกับด่าง มึงนึกออกมั้ยยย กุต่อแถวจนเปื่อย ในที่สุดก็ได้เล่น อิเครื่องนี้มันนั่งคู่ใช่ปะ ใจกุก็แบบ คู่ฝรั่งที่จริงใจได้มั้ยย ในความเมื่อยล้ามีสิ่งดีๆได้มั้ยยย ใช่ กุหมกมุ่นกับการเจอรักแท้ทุกวินาที5555 สรุปได้นั่งกะผชจีนตัวสูง คุยกัน 2-3 ประโยคเป็นพิธี พอไม่awkward เล่นเสร็จรู้สึกเพลียมากกกกกกก แบบมากกกกกก จนไม่มีแรงจะถ่ายภาพเอาคอนเทนต์อะไรแล้ว(แต่ก็ถ่ายอยู่ดี เอาหน่อย มาทั้งที ถ่ายแบบไม่มีเอเนอจี้เนี่ยแหละ) เดินตามเพื่อนพอ พวกมึงถ่ายเลย กุเยาแล้ว ตัดจบเลยนะ ก่อนออกจาก Sentosa ก็กิน llaollao ซักถ้วยให้ชื่นใจ เข้าเมืองมาไปตามล่าหมูกรอบแถวไชน่าทาวน์ ไปแถว Clark Quay ที่เคยอยากมาตั้งแต่วันแรกๆ กะหาไรกินจอยๆ สรุปไม่มีไรถูกจริต บวกกับตีนไม่เป็นตีนแล้ว อยากนอนยกขาสูงเท่านั้น ก็เลยไปกินไอติมแปปนึงแล้วกลับแถวโรงแรม ก่อนเข้าโรงแรมเดินผ่านร้านข้าวต้มกบจำนวนมาก ดังนักใช่มั้ยยย อะลองหน่อย ก็สั่งๆๆๆๆเลยสิ คนมันหิวอะเนาะ อาหารเริ่มเสิร์ฟเต็มโต๊ะ จู่ๆนึกสงสัยตัดบัตรได้มั้ยวะ กุมั่นใจมากร้านใหญ่เบอร์นี้รูดบัตรได้อยู่แล้ว ถามไปได้ความว่า... Cash only... ชิบหาย หน้าเสียทั้งลูกค้าทั้งพ่อค้า เลยบอก No cash เค้าอลุ่มอล่วยบอก THB cash ก็ได้ เอ่อ... THB cash พวกกุก็ไม่พออยู่ดี... อิทรายเริ่มแดกไม่ลงละ พ่อค้าบอกไม่เป็นไรๆกินก่อนๆค่อยว่ากัน มันมี ATM แถวนี้อยู่ ด้วยความหิวก็กินกันจนหมด แล้วตกลงกันอีกทียังไงดีเรา มัดจำเค้าด้วยพาสปอร์ตละกัน จะเดินไป ATM กันหมดเนี่ยแหละ สรุปเค้าบอกโอ้ยพาสปอร์ตไม่ต้องๆ ไปกดกันเลย เออร้านนี้แม่งใจว่ะ เลยพากันเดินไป ATM ซึ่งไกลมากกกกกกกกกกกกกก เทียบกับประเทศเราที่มีอยู่ทุกหัวมุมตาม 7-11 แต่นี่คือเดินไปแทบสุดถนนใหญ่ กดเสร็จเดินกลับมาจ่ายเรียบร้อยกลับโรงแรม กุเพลียสุดๆอาบน้ำแบบรีบเสร็จมาทิ้งตัวนอน
Day-4
ตื่นมามึงเอ้ยยย ปวดไปทั้งตัวว หัวก็ปวด ตัวก็ร้อน นี่กุใช้ร่างกายหนักขนาดนั้นเลยหรอวะ! คือไม่ไหวอะ เช้านั้นไม่อาบน้ำเลย หนาวมากรู้สึกจะตาย เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าไม่แต่งไม่สนใจไรแล้ว ออกโรงแรมมากุตามหาพาราอัดทุก 4 ไปเลย มาถึงสนามบิน อิฟรอยด์ติดด่านอีกเรื่องไม่ได้ถอนแจ้งความพาสปอร์ตหายอีก กว่าจะออกมาได้
ตัดจบแลนดิ้งไทยแลนด์เลยละกัน แอบขกเล่าละ มาถึงตั้งใจมากจะไปกิน Hotpotman ครั้งแรกตื่นเต้น เค้าบอกอร่อยนักอร่อยหนา กินไปก็ไม่แย่ ก็เริ่ดเลยแหละ ตกดึกมา สั่งบัวลอยมากินกันเม้ามอยพลางๆซักพักเพื่อนเซอเค้กวันเกิดย้อนหลัง
เช้าวันต่อมายังหยุดอีกวันเกิดอาการ เจ็บคอ... แต่เมื่อวานไปกินหม่าล่ามา อาจจะเป็น Side Effect ผงนัวร์ซัมติง
วันต่อมาต้องไปทำงานตั้งแต่เช้ามาคัดจมูก คิดในใจเชี่ย กุใช้งานร่างกายหนักจริงๆนอนน้อย เดินเยอะ เล่นเยอะ ไข้แดก แต่ก็ไปทำงาน เพื่อนร่วมงานแอบกลัวนิดหน่อย เพราะคัดจมูกมากกกก เสียงนาสิกสุด ลงเวรกะว่าจะไปซื้อยากินไม่ไหวละ อีกใจก็นึกเภสัชถามแน่เลยว่าโควิดมั้ย สวอปซักหน่อยละกันจะได้พูดเต็มปากว่า Neg ค่ะ พอดีมี Covid test เหลืออันนึงเลยจิ้ม...จุ่ม...หยด...
ปิ๊ง!... 2 ขีดจ่ะ จบ โทรลางาน พรุ่งนี้ไปโรงบาลเท่านั้น ปิดทริป!
0 notes
zhounat · 7 months
Text
.....
หิว แฮะ
แวะหม่ำอะไรดี~
🤔
.....
#ความสุขของแน๊ตตี้
0 notes
pisanuv · 8 months
Text
เงิน..อินังร้อยชื่อ
. เมื่ออยู่ในวัด เรียกว่า "ปัจจัย"
. ���ยู่ที่โรงเรียน เรียกว่า "แป๊ะเจี๊ยะ"
. ในการแต่งงาน เรียกว่า "สินสอด"
. ในการหย่า เรียกว่า "ค่าเลี้ยงดู"
. เมื่อหยิบยืมใคร เรียกว่า "หนี้สิน"
. เมื่อจ่ายให้รัฐบาล เรียกว่า "ภาษี"
. ในศาล เรียกว่า "ฤชา"
. ในบ่อน เรียกว่า "ชิพ"
. บนโรงพัก เรียกว่า "ค่าปรับ"
. นอกโรงพัก เรียกว่า "ใต้โต๊ะ"
. จ่ายข้าราชการเกษียณเป็นก้อน เรียกว่า "บำเหน็จ"
. จ่ายข้าราชการเกษียณเป็นเดือน เรียกว่า "บำนาญ"
. รับตอนตรุษจีน เรียกว่า "แต๊ะเอีย"
. รับตอนสิ้นปี เรียกว่า "โบนัส"
. จ่ายลูกจ้าง เรียกว่า "ค่าจ้าง"
. จ่ายพนักงาน เรียกว่า "เงินเดือน"
. จ่ายลูกพี่ เรียกว่า "ค่าครู"
. จ่ายลูกน้อง เรียกว่า "ค่าตอบแทน"
. ให้เด็ก เรียกว่า "เบี้ยเลี้ยง"
. ให้ผู้ยากไร้ เรียกว่า "ทาน"
. จ่ายหลังจากได้รับบริการที่ดี เรียกว่า "ทิป"
. จ่ายหลังจากถูกหลอก เรียกว่า "ค่าโง่"
. ฝากธนาคาร เรียกว่า "เงินฝาก"
. เมื่อยืมธนาคาร เรียกว่า "เงินกู้"
. จ่ายให้โจร เรียกว่า "ค่าไถ่"
. จ่ายตำรวจ เรียกว่า "ส่วย"
. จ่ายเพื่อรับบริการที่ถูกกฎหมาย เรียกว่า "ค่าธรรมเนียม"
. จ่ายเพื่อรับบริการที่ผิดกฎหมาย เรียกว่า "สินบน"
. จ่ายให้ประกันเรียกว่า "เบี้ยประกัน"
. จ่ายให้ กรณีบาดเจ็บ เรียกว่า"สินไหม"
. จ่ายให้ ชาวบ้าน ตอนเลือกตั้ง เรียกว่า "ซื้อเสียง"
. จ่ายให้ สส.หิว เรียกว่า "กล้วย"
# กรณรัฏฐ์ ทวีวัฒน์ธน
0 notes
sing0018 · 9 months
Text
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
บัดนี้ จักแสดงธรรมะเป็นเครื่องอบรมในการปฏิบัติอบรมจิต ในเบื้องต้นก็ขอให้ทุกๆ ท่านตั้งใจนอบน้อมนมัสการ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตั้งใจถึงพระองค์พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ ตั้งใจสำรวมกายวาจาใจให้เป็นศีล ทำสมาธิในการฟัง เพื่อให้ได้ปัญญาในธรรม
ได้แสดงอานาปานสติ สติกำหนดลมหายใจเข้าออก ในชั้นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ตั้งสติพิจารณากาย ๔ ชั้น แล้ว และเมื่อถึงชั้นที่ ๔ นี้ จิตกับลมหายใจย่อมรวมกันอยู่ พร้อมกับกายทั้งหมดใจทั้งหมด ซึ่งสงบตั้งมั่น และละเอียดอ่อน จิตได้สัมผัสกับสติและสมาธิอย่างดียิ่ง จึงเกิดปีติคือความอิ่มใจ ก่อนแต่จะพบกับสติสมาธิ ดั่งนี้ จิตย่อมกระสับกระส่ายดิ้นรนไปอยู่กับอารมณ์ต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดยินดีบ้าง ยินร้ายบ้าง หลงสยบติดอยู่บ้าง ซึ่งอะไรๆ ในโลก (เริ่ม ๑๖๙/๑) จิตจึงมีลักษณะที่เศร้าหมอง ประกอบด้วยความอยากความดิ้นรน อันทำให้จิตใจแห้งแล้ง ไม่แช่มชื่น
แต่เมื่อมาพบกับสติกับสมาธิ รวมอยู่กับกายใจทั้งหมด กับลมหายใจ จิตได้พบกับความสงบ ความละเอียดอ่อน อาการที่ดิ้นรนที่หิวระหาย กระสับกระส่ายก็สงบไป จิตจึงได้ดูดดื่มความสงบ ความบริสุทธิ์ ซึ่งยังไม่เคยพบมาก่อน จึงได้ความดูดดื่มใจ อิ่มใจ สงบใจ แต่ก่อนนั้นใจยังไม่เคยอิ่ม ยังกระหาย หิว ในอารมณ์ทั้งหลายที่เป็นกาม แต่ครั้นสงบได้ด้วยสติสมาธิ กายใจลมหายใจ รวมกันอยู่ ได้ดูดดื่มความสงบ จึงมีความอิ่มใจ ใจที่หิวระหายกระวนกระวายก็หาย ร่างกายที่เมื่อยขบต่างๆ ก็หายหมด ปีติจึงบังเกิดขึ้น เป็นความอิ่มใจ
ปีติ ๕
ซึ่งปีตินี้ ท่านแสดงไว้ตั้งแต่อย่างหยาบไปหาอย่างละเอียด หรือน้อยไปหามาก คือเบื้องต้นก็จะได้ ขุททกาปีติ ปีติอย่างน้อย อันทำให้น้ำตาไหลขนชัน เมื่อแรงขึ้นก็เป็น ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะ อันทำให้รู้สึกเสียวแปลบเหมือนอย่างฟ้าแลบ ยิ่งขึ้นก็เป็น โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ซ่ามากยิ่งกว่าเสียวแปลบปลาบ เหมือนอย่างคลื่นกระทบฝั่ง แรงขึ้นอีกก็เป็น อุพเพงคาปีติ ปีติอย่างโลดโผน ทำให้ใจฟู จนถึงบางคราวทำให้เปล่งอุทานขึ้นมา โดยที่มิได้เจตนามาก่อน หรือทำให้กายเบา กายลอย กายโลดขึ้น และอย่างแรงที่มีอาการดั่งนี้ แต่ไม่ละเอียด ที่ยิ่งกว่านั้น ก็เป็นปีติอย่างแรงแต่ละเอียดเป็น ผรณาปีติ ปีติที่ซาบซ่าน ไปทั่วจิตใจและร่างกาย ทั่วสรรพางค์กาย
เมื่อปีติบังเกิดขึ้น ก็ให้ทำความรู้ทั่วถึงปีติที่บังเกิดขึ้นนั้น กำหนดดูให้รู้จักปีติที่บังเกิดขึ้นนั้น ในขั้นนี้เป็นอันว่า กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ซึ่งเต็มขั้น ก็เลื่อนขึ้นมาเองเป็น เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน สติที่พิจารณาเวทนากำหนดเวทนา อันได้แก่ความรู้สึกที่เป็นสุขเป็นทุกข์หรือเป็นกลางๆ ไม่ทุกข์ไม่สุข ปีตินี้ก็เป็นเวทนาอย่างหนึ่ง ซึ่งบังเกิดขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน หรือปฏิบัติสมาธิแม้ในกรรมฐานบทอื่น
เมื่อจิตได้สมาธิ ก็จะได้ปีติบังเกิดขึ้นเอง ตามขั้นตอนเอง
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสอนให้กำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมกับกำหนดเวทนาคือปีติที่บังเกิดขึ้นตามที่เป็นไปจริงอย่างไร เป็นอันว่าตั้งสติกำหนดรู้ ๒ อย่าง ลมหายใจเข้าออกด้วย ปีติที่บังเกิดขึ้นด้วย และเมื่อได้ปีติดั่งนี้ ก็ย่อมจะได้สุขที่สืบเนื่องจากปีติ เป็นการได้สุขที่สืบเนื่องกันขึ้นไปเอง คือความสบายกายความสบายใจ ร่างกายก็สบาย ไม่มีเมื่อยขบเจ็บปวดอะไรหมด จิตใจก็สบาย และสงบกายสงบใจประกอบอยู่ในสุขที่ได้
พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสสอนให้กำหนด ลมหายใจเข้าออกไปพร้อมกับกำหนดสุขที่บังเกิดขึ้น เป็นอันว่าได้เลื่อนขึ้นสู่ขั้นเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ตั้งสติกำหนดตามดูตามรู้ตามเห็นเวทนา ขั้นที่ ๑ คือปีติ ขั้นที่ ๒ คือสุข ซึ่งทั้งปีติทั้งสุขนี่บังเกิดขึ้นเอง บังเกิดขึ้นจริงตามลำดับ และในการปฏิบัตินั้น ก็ให้ศึกษาสำเหนียกกำหนดว่าเราจักรู้ทั่วถึงปีติหายใจเข้าหายใจออก เราจักรู้ทั่วถึงสุขหายใจเข้าหายใจออก เป็นอันว่าทั้ง ๒ ขั้นนี้ก็ให้ศึกษาคือสำเหนียกกำหนดว่าจักรู้ทั้งสอง เวทนาขั้นที่ ๑ ก็ให้รู้ทั้งลมหายใจเข้าลมหายใจออก และปีติที่บังเกิดขึ้นตามที่เป็นจริง และเวทนาขั้นที่ ๒ ก็ให้ศึกษาสำเหนียกกำหนดให้รู้ลมหายใจเข้าลมหายใจออก พร้อมทั้งสุขที่บังเกิดขึ้นตามเป็นจริง
จิตตสังขารเครื่องปรุงจิต
และปีติกับสุขนี้เมื่อบังเกิดขึ้น ก็ทำให้จิตใจนี้เพลิดเพลินอยู่กับปีติ เพลิดเพลินอยู่กับสุขได้ เพราะว่าทั้งปีติและทั้งสุขนี้เป็นสุขเวทนาด้วยกัน
ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่าเป็นจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต คือสัญญาและเวทนา เวทนานั้นมาก่อน สัญญาก็ตามเวทนา ตามลำดับในขันธ์ ๕ คือเมื่อเวทนาบังเกิดขึ้น เป็นเวทนา ก็จำได้หมายรู้ในเวทนา ก็เป็นสัญญา แต่เรียกเอาสัญญาออกหน้าเป็นสัญญาเวทนา
ทั้ง ๒ นี้เป็นจิตตสังขารดังกล่าว เครื่องปรุงใจ คือปรุงจิตใจให้ยินดีก็ได้ ให้ยินร้ายก็ได้ เมื่อเป็นปีติเป็นสุข ก็เป็นสุขเวทนาเหมือนกัน ก็ปรุงใจให้ยินดี อันทำให้เกิดราคะคือความติดใจยินดี นันทิคือความเพลิดเพลินติดอยู่ และทำให้เกิดตัณหา ความอยากได้ความต้องการสุขเวทนา แต่ถ้าหากว่าเป็นทุกขเวทนาที่ตรงกันข้าม ก็เป็นจิตตสังขารปรุงจิตใจให้ยินร้ายไม่ต้องการ
ทุกขเวทนาในการปฏิบัติ
ในการปฏิบัติกรรมฐานนี้ เมื่อเริ่มปฏิบัติจิตยังไม่ได้สติยังไม่ได้สมาธิ ย่อมเกิดทุกขเวทนาในการปฏิบัติ ฉะนั้น ทุกขเวทนานี้จึงเป็นจิตตสังขารปรุงจิตใจให้ยินร้าย ทำให้ไม่ชอบ ไม่อยากทำ อยากเลิก เพราะรู้สึกว่าเป็นทุกข์ในการปฏิบัติ เป็นทุกขเวทนา จิตจึงใคร่ที่จะสลัดกรรมฐานออกอยู่เสมอ จิตมักตกออกไปสู่กามคุณารมณ์ อันเป็นที่อาศัยของจิตที่เป็นกามาพจร หยั่งลงในกาม ปรากฏเป็นนิวรณ์ทั้งหลายบังเกิดขึ้น กลุ้มรุมจิตใจอยู่เป็นอันมาก ระงับจิตใจจากนิวรณ์ได้ยาก จิตก็อยู่ได้ยาก
พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสเปรียบไว้ ว่าเหมือนอย่างจับปลาขึ้นมาจากน้ำ วางไว้บนบก ปลาก็จะดิ้นลงน้ำ เพราะว่าบกไม่ได้เป็นที่อยู่ของปลา ส่วนในน้ำเป็นที่อยู่ของปลา ปลาก็จะดิ้นไปหาที่อยู่ของตนคือน้ำ
ที่อยู่ของจิตที่เป็นกามาพจร
จิตที่เป็นกามาพจรที่หยั่งลงในกามก็เช่นเดียวกัน เมื่อยกจิตขึ้นมาสู่กรรมฐาน ซึ่งไม่ใช่เป็นที่อยู่ของจิตมาแต่ก่อน จิตไม่มีความสุขในกรรมฐาน มีความทุกข์ในกรรมฐาน เหมือนอย่างปลาที่ถูกวางไว้บนบก มีความทุกข์อยู่ในบนบก ไม่มีความสุขอยู่บนบก จิตจึงได้ดิ้นรน ไม่ต้องการที่จะอยู่ในกรรมฐาน ต้องการที่จะกลับไปอยู่ในอาลัยคือน้ำ อันได้แก่กามคุณารมณ์ อันเป็นที่อยู่ของจิตที่เป็นกามาพจร หรือหยั่งลงในกามของสามัญชนทั่วไป เพราะไม่ได้สุขนั้นเอง
แต่ครั้นเมื่อมาได้ปีติได้สุข อันรวมกันเป็นสุขเวทนา จิตก็สบาย เมื่อสบายก็ชอบ ก็ติดใจ ใคร่ที่จะอยู่กับปีติและสุขนี้เรื่อยไป ไม่อยากที่จะไปไหน อาการที่ติดใจและติดอยู่นี้ คืออาการที่เป็นราคะความติดใจยินดี นันทิความเพลิน และอาการที่สยบติดก็เป็นอาการของโมหะคือความหลง ทำให้หลงอยู่ในสมาธิ คือหลงในปีติสุขในสมาธิ ติดในปีติสุขสมาธิ เพราะเหตุที่ปีติและสุขเป็นจิตตสังขาร คือเครื่องปรุงจิตให้ติดให้ยินดี ดั่งนี้
เวทนานุปัสสนาขั้นที่ ๓ และขั้นที่ ๔
พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสอนให้พิจารณาต่อขึ้นไปอีกว่า ให้ศึกษากำหนดสำเหนียก ว่าเราจักรู้ทั่วถึงจิตตสังขาร คือให้รู้ทั่วถึงปีติสุขที่กำลังบังเกิดขึ้นอยู่ ว่าเป็นจิตสังขารเครื่องปรุงจิต หายใจเข้าหายใจออก คือให้รู้จักปีติ ให้รู้จักสุข ว่าเป็นจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต ให้ติดใจ ให้ยินดี ให้รู้จักตามเป็นจริง เพื่อจะได้ไม่ให้ถูกปรุง ไม่ให้ติดใจ ไม่ให้สยบติด อยู่กับปีติกับสุข ก็เป็นเวทนานุปัสสนาขั้นที่ ๓ คือให้รู้จักจิตตสังขาร และยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ตรัสสอนให้ศึกษาสำเหนียกกำหนดอีกขั้นหนึ่งเป็นขั้นที่ ๔ ว่า
เราจักสงบรำงับจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต คือปีติสุข หายใจเข้าหายใจออก คือในการปฏิบัติตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าออก ให้ปฏิบัติพร้อมกันไปกับตั้งจิตสงบรำงับจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต คือไม่ให้ปีติสุขมาปรุงจิตให้ติดยินดี ให้เพลิดเพลิน ให้ต้องการ ปล่อยให้ปีติสุขนั้นเป็นไปตามธรรมดาของตนเอง ปีติสุขแม้จะบังเกิดขึ้นอยู่ ก็ให้เป็นเรื่องของปีติ ให้เรื่องของสุข
จิตเพียงแต่รู้ ว่านี่ปีติ นี่สุข แต่ไม่ยึด ไม่ติดในปีติในสุข และให้รู้ว่าปีติสุขก็เป็นสิ่งเกิดดับไปทุกขณะจิต ไม่ตั้งอยู่ยั่งยืน แต่ว่าบังเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกขณะจิต จึงเหมือนอย่างยืดยาว แต่ความจริงนั้นปีติสุขบังเกิดขึ้นทุกขณะจิต ขณะจิตหนึ่งก็ปีติสุขหนึ่งไปพร้อมกัน แต่ว่าต่อๆ ๆ กันไปโดยรวดเร็ว จึงเหมือนเป็นอันเดียวกัน ให้รู้จักว่าปีติสุขเป็นสิ่งที่เกิดดับ เพื่อไม่ให้ปีติสุขปรุงจิตดังกล่าว ���ีติสุขก็จะไม่ปรุงจิต แต่จะเกิดขึ้นและดับไปตามธรรมดาของปีติสุขเอง ก็ปล่อยให้ปีติสุขเป็นไป ไม่ต้องคิดดับปีติ ไม่ต้องคิดดับสุข ให้ปีติสุขเกิดขึ้นนั่นแหละ ไปตามธรรมดาของปีติสุข
คุณและโทษของปีติสุข
เพราะว่าถ้าไม่มีปีติสุข จิตก็เป็นสมาธิไม่ได้ เพราะจิตไม่ต้องการอยู่กับความแห้งแล้ง จิตต้องการอยู่กับความชุ่มชื่น หรือความสุข ตัวปีติสุขนี้จึงเป็นฐานของสมาธิด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็มีโทษ ถ้าปล่อยให้ปีติสุขนี้ปรุงจิตให้ติดใจยินดี ให้อยากได้ ก็จะทำให้หลงใหลติดอยู่กับปีติสุขเท่านั้น ไม่ต้องการจะปฏิบัติให้คืบหน้าไป เหมือนอย่างเข้าหับ เข้านั่งพักในห้องเย็น สบาย ก็เลยนอนหลับสบายไปในห้องเย็นนั้น งานอะไรที่จะต้องทำต่อไป ก็เป็นอันว่าไม่ได้ทำ
ปฏิบัติสมาธิก็เหมือนกัน จะปล่อยให้จิตสยบติดอยู่กับปีติสุขนั้นไม่ได้ แต่จะไม่มีปีติสุขก็ไม่ได้ จะต้องมีปีติสุข หรือต้องมีสุข สมาธิจึงจะตั้งอยู่กับความสุขคือความสบาย ให้มีปีติสุขนั่นแหละ ตามที่จะมี แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้ปีติสุขนั้นปรุงจิตใจให้ติดให้ยินดี คอยระงับเสีย ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ว่าเป็นสิ่งที่เกิดดับ และติดเข้าเป็นโทษ ให้รู้ความเป็นจริงด้วย ให้รู้จักโทษด้วย ในการที่ติดปีติสุข ให้ปีติสุขปรุงจิต ก็เป็นขั้นที่ ๔
ในเมื่อถึงขั้นที่ ๔ นี้ ปีติสุขก็จะปรุงจิตไม่ได้ จิตก็จะเป็นจิตที่ได้สมาธิ ได้สติ ได้ลมหายใจเข้าออก ได้ปีติได้สุขประกอบกันอยู่อย่างถูกต้อง ก็เป็นอันว่าเป็นเวทนานุปัสสนาในขั้นที่ ๔ (เริ่ม ๑๖๙/๒) ก็รวมความว่า จิตเลื่อนจากขั้นกายานุปัสสนา ขึ้นมาเป็นขั้นเวทนานุปัสสนา
พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนให้ศึกษาสำเหนียกกำหนดว่า เราจักรู้ทั่วถึงปีติหายใจเข้าหายใจออก เป็นขั้นที่ ๑ ศึกษาสำเหนียกกำหนดว่า เราจักรู้ทั่วถึงสุขหายใจเข้าหายใจออก เป็นขั้นที่ ๒ ศึกษาคือสำเหนียกกำหนดว่า เราจักรู้ทั่วถึงจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต คือสุข คือปีติสุข ว่าเป็นจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต ปรุงให้ยินดีติดอยู่เมื่อเป็นสุขเวทนา ให้ยินร้ายเมื่อเป็นทุกขเวทนา นี่เป็นขั้นที่ ๓ และเมื่อขั้นที่ ๔ ก็ศึกษาคือสำเหนียกกำหนดว่า เราจักหายใจเข้าหายใจออก พร้อมทั้งรู้ทั่วถึงการสงบระงับจิตตสังขารเครื่องปรุงจิต
ข้อที่เรียกว่าเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
เมื่อสงบรำงับจิตตสังขารได้ สมาธิ สติ ลมหายใจเข้าออก ปีติ สุข ก็ประกอบกันอยู่อย่างถูกส่วน โดยไม่ปรุงกั�� แต่ว่าสนับสนุนในการปฏิบัติสติปัฏฐาน ปฏิบัติสมาธินี้ ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
การมนสิการในลมหายใจเข้าออกในขั้นนี้ก็แนบแน่นยิ่งขึ้น และพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า การมนสิการลมหายใจเข้าออกอย่างดี คือการใส่ใจลมหายใจเข้าออกไว้เป็นอย่างดี นี่แหละเป็นตัวเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน อันเป็นผลที่ได้จากการปฏิบัติมาใน ๔ ขั้นนี้ จึงรวมเป็นกายานุปัสสนา ๔ ขั้น เวทนานุปัสสนา ๔ ขั้น เป็น ๘ ขั้นต่อกันขึ้นไปเอง
ต่อไปนี้ก็ขอให้ตั้งใจฟังสวดและตั้งใจทำความสงบสืบต่อไป
0 notes
surasitton · 10 months
Text
Tumblr media
#หิว ตอน 4 ทุ่ม 😋🕙
#kfc #ตะวันนาบางกะปิ 🍗🍟
#ડꪊ𝕣ꪖડⅈ𝕥_𝕥ꪮꪀ 27.6.2023 🥳
1 note · View note
ufabetwebsites · 1 year
Text
ศึกโค้ชโปเตโต้คัลเจอร์
Tumblr media
มือที่ชุ่มเหงื่อควบคุมจอยสติ๊กเหนียวๆ ค้อนไปที่คีย์บอร์ดและสายตาจับจ้องไปที่จอภาพที่สว่างสดใส ชั่วโมงผ่านไปก่อนที่พวกเขาจะเหนื่อย หิว หรือ ufabet กระหายน้ำ เสียงเรียกของธรรมชาติถูกระงับ และเสียงของแม่ก็เงียบลง ความคลั่งไคล้ในวิดีโอเกมได้จับคนรุ่นใหม่เหมือนปลาในถัง เด็ก ๆ เล่นเกมที่เต็มไปด้วยจินตนาการ กระโดดหลังคาและเอาชนะเหล่าร้ายตลอดทั้งวัน แต่อย่าก้าวออกไปเดินเล่นบนพื้นดินเดียวกับที่พวกเขาเคยจินตนาการผ่านเกมของพวกเขา
การเพิ่มขึ้นของเกมคอมพิวเตอร์ทำให้คนรุ่นหนึ่งมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน การนอนหลับผิดปกติ ความบกพร่องทางสายตา และปัญหาหลังตั้งแต่อายุยังน้อย เยาวชนเหล่านี้มีกิจกรรมทางกายน้อย นอนหลับน้อยลง และมีกิจกรรมทางจิตในระดับสูงและบางครั้งก็มีความเครียด ปัญหาจะกระเพื่อมกันไปมาและรุนแรงขึ้นในระยะยาว
ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ที่จะปลูกฝังให้ลูก ๆ ชื่นชอบการละเล่นแบบดั้งเดิม ออกไปรับแสงแดด วิ่ง กระโดด กลิ้งไปมา ในช่วงวัยกำลังเติบโต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะออกกำลังกายให้เ���ียงพอเพื่อให้กล้ามเนื้อของพวกเขาพัฒนาได้ดีขึ้น นิสัยการอยู่ประจำตั้งแต่อายุยังน้อยสามารถนำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมายเมื่อโตขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกมคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งเสพติดอย่างมาก และอาจทำให้ผลการเรียนตก ขาดความสามารถในการเข้าสังคม และไม่แยแสต่อกิจกรรมประจำวันโดยทั่วไป พ่อแม่หลายคนบ่นว่าลูกๆ ไม่ทำอะไรเลย นอกจากเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวด้วยซ้ำ เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่เด็กเลื่อนมื้ออาหารออกไปจนกว่าพวกเขาจะเล่นเกมเสร็จโดยที่อาหารเย็นหมดเวลารับประทานอาหารไปนานแล้ว
เกมดั้งเดิม เช่น ฟุตบอล เบสบอล บาสเก็ตบอล และกีฬาอื่นๆ ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก แม้ว่าวิดีโอเกมจะไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด แต่เด็กๆ ก็ไม่สามารถดูแลเวลาที่พวกเขาใช้ไปกับเกมเหล่านี้ได้ พ่อแม่พยายามห้ามลูก แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิเสธลูกไ click here ด้เป็นเวลานาน ทางออกที่ดีที่สุดคือการทำให้พวกเขารักกลางแจ้งมากกว่าโลกแฟนตาซีในร่ม
พยายามค่อยๆ แนะนำแนวคิดขอ click here งเกมที่ใช้ร่างกายกับเด็ก หากพวกเขาไม่ยอมถอยห่างจากคอนโซล ให้ใช้เกมที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อแนะนำให้พวกเขารู้จักกับกีฬา ความสนใจจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาอาจชอบของจริงมากกว่าของเสมือนจริง เกลี้ยกล่อมพวกเขาอย่างช้าๆ ให้ลดเวลาเล่นเกมวิดีโอลง อย่าห้ามทันที แต่ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงแนวทางปฏิบัติทดแทนที่จะผลักดันเด็กไปสู่เกมที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ
เกมเหล่านี้ก็เหมือนกับเกมอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้หากเล่นมากเกินไป สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเกมเหล่านี้สนุกสุดเหวี่ยงสำหรับลูก ๆ ของคุณ และอธิบายให้พวกเขาฟังว่ามีเกมอื่น ๆ ที่สามารถสนุกได้เช่นกัน การเข้มงวดมากเกินไปมักจะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมดื้อรั้นซึ่งก่อให้เกิดปัญหามากกว่าที่จะแก้ไข
For more Information: http://1ufa.bet/
0 notes
kkkoooolll · 1 year
Link
0 notes
vivitawin · 1 year
Photo
Tumblr media
หิว 🥹 (at ยาคูลท์ลพบุรี) https://www.instagram.com/p/Cp1clisPHwEhqeORiNxY3Xvgb4kGi13OX121fI0/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
mhalabarber · 1 year
Text
Tumblr media
ไลน์แมน 🚘 ส่งของขวัญมาให้ร้านค้า ที่ไม่ยกเลิกออเดอร์ลูกค้า 📌
พร้อมบอกโค้ดส่วนลด " NEW50 " มาให้สำหรับลูกค้าใหม่ด้วยน๊า 💕
ใครยังไม่เคยใช้ไลน์แมน ให้โหลดแอพแล้วสั่งเบย 👈 แต่เอ๊ะ ‼️
นั่นมันสโลแกน ของอีกค่ายนี่นา 5555
Mhala.Barber 🚘 Delivery 24 hour
🐻 Food panda ค้นหาชื่อร้าน Mhala Barber แล้วสั่งได้เลย 🐻
🥧 EatsHub ค้นหาชื่อร้าน Mhala.Barber แล้วสั่งได้เลย 🥧
🚀 AirAsia ค้นหาชื่อร้าน Mhala.Barber แล้วสั่งได้เลย 🚀
หม่าล่า #หม่าล่าบาร์เบอร์ #หม่าล่าคลองตัน #หม่าล่ารสเด็ด #MhalaBarber #หมาล่า #หิว #อร่อย #ของกิน #อาหาร #เดลิเวอรี่ #Delivery #LineMan #ไลน์แมน #FoodPanda #ฟู้ดแพนด้า
0 notes
wrdpkk · 1 year
Photo
Tumblr media
[ หนาว - หิว - เหนื่อย ] (at Tokyo Tower (กรุงโตเกียว)) https://www.instagram.com/p/CpwnrEvPAfH/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
royalro · 1 year
Photo
Tumblr media
ก็แล้วแต่ …หิว (ที่ Anglo Singapore International School, Sukhumvit 64) https://www.instagram.com/p/CnlDZGxvx0O/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes